Close Menu
    Facebook X (Twitter) Instagram
    kitchen-thailand
    • Home
    • ข่าวสารล่าสุด
    • ความบันเทิง
    • สุขภาพ
    kitchen-thailand
    ความบันเทิง

    Cotswolds Way: เส้นทางเดินเท้าชม หมู่บ้าน ที่ สวยงามที่สุดในอังกฤษ

    Daniel WalkerBy Daniel WalkerAugust 31, 2025No Comments3 Mins Read

    ในบรรดาเส้นทางเดินเท้าที่มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ ชื่อของ Cotswolds Way หมู่บ้าน มักถูกกล่าวถึงเสมอในฐานะเส้นทางที่ผสมผสานความงามทางธรรมชาติกับเสน่ห์แบบชนบทอังกฤษดั้งเดิม เส้นทางนี้ทอดยาวประมาณ 164 กิโลเมตร เริ่มต้นจากเมือง Chipping Campden ทางตอนเหนือของเขต Cotswolds และสิ้นสุดที่เมืองประวัติศาสตร์ Bath ทางตอนใต้ ถือเป็นการเดินทางที่ผ่านทั้งเนินเขา ทุ่งหญ้า ป่าไม้ และหมู่บ้านหินปูนสีทองที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ Cotswolds Way ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางเดินเท้า แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่สะท้อนชีวิต วัฒนธรรม และความงามเหนือกาลเวลาของอังกฤษชนบท

    ความเป็นมาของ Cotswolds Way

    เส้นทาง Cotswolds Way ได้รับการประกาศให้เป็นเส้นทางแห่งชาติ (National Trail) เมื่อปี ค.ศ. 2007 แม้ก่อนหน้านั้นผู้คนจำนวนมากก็ใช้เส้นทางนี้เดินทางอยู่แล้ว เนื่องจากมันเชื่อมโยงระหว่างหมู่บ้านและเมืองเก่าแก่ในเขต Cotswolds การเดินบนเส้นทางนี้จึงไม่เพียงแต่ได้สัมผัสธรรมชาติ แต่ยังได้เข้าไปใกล้ชิดกับร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ยุคหินใหม่ ยุคโรมัน จนถึงยุคกลางที่อังกฤษเริ่มก่อร่างสร้างบ้านเมือง

    สิ่งที่ทำให้เส้นทางนี้มีเอกลักษณ์คือภูมิทัศน์ที่เกิดจากหินปูน Cotswolds Limestone ซึ่งให้สีทองอุ่นแก่หมู่บ้านและบ้านเรือนที่สร้างขึ้น ทำให้ทุกแห่งหนที่ผ่านดูงดงามราวกับภาพวาด อีกทั้งยังถูกจัดให้เป็น เขตอนุรักษ์ความงามทางธรรมชาติพิเศษ (Area of Outstanding Natural Beauty) ของอังกฤษ

    การเดินทางผ่านหมู่บ้านที่สวยที่สุด

    หนึ่งในเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนให้มาสัมผัส Cotswolds Way คือโอกาสได้แวะเวียนตามหมู่บ้านเล็กๆ ที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดในอังกฤษ บางแห่งดูเหมือนจะหยุดเวลาเอาไว้

    • Chipping Campden
      เมืองเริ่มต้นของเส้นทาง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมหินปูนสีทอง ถนนสายหลักเต็มไปด้วยบ้านโบราณจากศตวรรษที่ 14 และ 15 ที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขนสัตว์ในอดีต
    • Broadway
      หมู่บ้านที่ได้ชื่อว่า “อัญมณีแห่งคอตส์โวลด์” โด่งดังด้วย Broadway Tower หอคอยบนเนินเขาที่มอบวิวกว้างไกลสุดสายตา
    • Winchcombe
      เมืองที่มีบรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะ Sudeley Castle ปราสาทที่เคยเป็นที่พำนักของสมเด็จพระราชินีแคทเธอรีน พาร์ ภรรยาคนสุดท้ายของกษัตริย์เฮนรีที่ 8
    • Painswick
      ได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งคอตส์โวลด์” โบสถ์เซนต์แมรีที่รายล้อมด้วยต้นยูจำนวนมากเป็นภาพที่อยู่ในใจของนักเดินทางหลายคน
    • Bath
      จุดหมายปลายทางอันงดงามและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ Bath เป็นเมืองโรมันที่มีชื่อเสียงเรื่องโรงอาบน้ำร้อนและสถาปัตยกรรมจอร์เจียน

    ภูมิทัศน์ที่หลากหลาย

    นอกจากความงามของหมู่บ้าน เส้นทาง Cotswolds Way ยังมอบทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่หลากหลาย การเดินทางพาผู้คนขึ้นลงไปตามสันเขา ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ ป่าไม้ที่หนาทึบ และพื้นที่เกษตรกรรมแบบดั้งเดิม หลายช่วงของเส้นทางเปิดโอกาสให้นักเดินทางได้มองเห็นวิวไกลไปถึงหุบเขา Severn และแม้แต่เทือกเขา Malvern ในวันที่อากาศแจ่มใส

    ฤดูกาลยังเพิ่มเสน่ห์ให้กับการเดินทาง ฤดูใบไม้ผลิเต็มไปด้วยดอกไม้ป่า ฤดูร้อนมีทุ่งหญ้าเขียวขจี ฤดูใบไม้ร่วงมอบสีทองและสีแดงจากใบไม้ที่เปลี่ยนสี ขณะที่ฤดูหนาวเผยให้เห็นทิวทัศน์สงบเงียบและหมู่บ้านที่ดูราวกับภาพในโปสการ์ด

    ประสบการณ์ระหว่างทาง

    Cotswolds Way ไม่ได้เป็นเพียงการเดินเท้า แต่ยังเป็นการสัมผัสวิถีชีวิตในชนบทอังกฤษอย่างแท้จริง นักเดินทางจะได้พบปะกับชาวบ้านที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิม ร้านน้ำชาแบบอังกฤษแท้ๆ ผับโบราณที่เสิร์ฟอาหารพื้นเมือง และที่พักแบบเกสต์เฮาส์ในบ้านหินเก่าแก่ ทุกช่วงเวลาของการเดินเต็มไปด้วยเรื่องราวและความทรงจำที่ไม่เหมือนที่ใด

    นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ทางโบราณคดีและอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์กระจายอยู่ทั่วไป เช่น เนินเขาที่มีสุสานยุคหินใหม่ (long barrows) ป้อมปราการยุคเหล็ก (hill forts) และร่องรอยการตั้งถิ่นฐานของโรมัน ทำให้การเดินเส้นทางนี้เสมือนการเดินย้อนกาลเวลาไปพร้อมกัน

    การวางแผนและการเดินทาง

    เส้นทางทั้งหมดของ Cotswolds Way ใช้เวลาเดินประมาณ 7–10 วัน ขึ้นอยู่กับความเร็วและจำนวนครั้งที่หยุดพัก นักเดินทางบางคนอาจเลือกเดินเพียงบางช่วงเพื่อสัมผัสบรรยากาศ ส่วนผู้ที่ชื่นชอบความท้าทายก็มักตั้งใจเดินครบทุกกิโลเมตร

    การวางแผนที่ดีคือสิ่งสำคัญ ทั้งเรื่องที่พักซึ่งมักต้องจองล่วงหน้าโดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว อาหารและน้ำที่ควรเตรียมให้เพียงพอ รวมทั้งรองเท้าและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับภูมิประเทศที่มีทั้งทางราบและเนินเขา

    สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเดินทางด้วยตนเอง ก็มีบริษัททัวร์และผู้ให้บริการที่จัดการขนสัมภาระไปยังที่พักระหว่างทาง ทำให้สามารถเดินได้อย่างสบายใจและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักสัมภาระ

    เหตุผลที่ควรสัมผัส Cotswolds Way

    สิ่งที่ทำให้ Cotswolds Way พิเศษไม่ใช่แค่ความยาวหรือความงามของเส้นทาง แต่คือความกลมกลืนของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตที่ยังคงอยู่แบบดั้งเดิม ทุกก้าวที่เดินไม่เพียงแต่เป็นการเดินชมวิว แต่เป็นการเดินเข้าไปใกล้ชิดกับรากเหง้าของอังกฤษ

    สำหรับใครที่ชื่นชอบการเดินเท้า เส้นทางนี้คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ควรลองสักครั้งในชีวิต และแม้แต่ผู้ที่ไม่ใช่นักเดินทางสายไกล ก็สามารถเลือกเพียงบางช่วงเพื่อสัมผัสเสน่ห์ของหมู่บ้านและทิวทัศน์ที่งดงาม

    อาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่นระหว่างเส้นทาง

    การเดินทางบน Cotswolds Way ไม่ได้มีเพียงทิวทัศน์งดงามและหมู่บ้านที่เหมือนภาพวาดเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยโอกาสลิ้มลองรสชาติท้องถิ่นที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวอังกฤษในชนบท

    • ผับแบบอังกฤษ (Traditional Pubs)
      แทบทุกหมู่บ้านมีผับโบราณที่สร้างขึ้นมานานหลายร้อยปี ที่นี่คุณจะได้พบอาหารอังกฤษแท้ เช่น พายเนื้อ (Steak and Ale Pie), ไส้กรอกกับมันบด (Bangers and Mash) และปลากับมันฝรั่งทอด (Fish and Chips) ที่เสิร์ฟร้อนๆ ในบรรยากาศอบอุ่น
    • น้ำชาและสโคน (Cream Tea)
      หนึ่งในประเพณีที่ไม่ควรพลาดคือการจิบน้ำชายามบ่ายพร้อมสโคนอบใหม่ เสิร์ฟพร้อมครีมและแยมสตรอว์เบอร์รี ถือเป็นช่วงเวลาที่ช่วยเติมพลังและเพิ่มเสน่ห์ให้กับการเดินทาง
    • ตลาดท้องถิ่น (Farmers’ Markets)
      บางเมืองที่ผ่าน เช่น Stroud และ Cirencester มีตลาดเกษตรกรที่นำเสนอผักผลไม้สด ชีสท้องถิ่น และเบเกอรีแสนอร่อย การแวะชิมอาหารเหล่านี้เป็นการเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง

    วัฒนธรรมของชาวบ้านยังคงสะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายแต่ทรงเสน่ห์ บ้านหินปูนหลังเล็ก โบสถ์ประจำหมู่บ้าน และสวนดอกไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความสงบและความเป็นมิตรที่หาได้ยากในเมืองใหญ่

    สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์บนเส้นทาง

    Cotswolds Way ไม่ได้เป็นเพียงการชมทิวทัศน์ธรรมชาติ แต่ยังเต็มไปด้วยร่องรอยของอดีตที่ยาวนาน

    • Belas Knap Long Barrow
      สุสานยุคหินใหม่ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 5,000 ปีก่อน แสดงถึงความเก่าแก่ของพื้นที่และการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในยุคแรกๆ
    • Hailes Abbey
      ซากอารามเก่าแก่จากศตวรรษที่ 13 ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญ ปัจจุบันแม้จะเหลือเพียงโครงสร้างบางส่วน แต่ยังคงให้บรรยากาศเงียบสงบ
    • Broadway Tower
      หอคอยสไตล์โกธิกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดแห่งหนึ่งของคอตส์โวลด์ สามารถมองเห็นวิวได้กว้างขวางและมักเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
    • เมือง Bath
      ปลายทางที่เต็มไปด้วยมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก Bath มีโรงอาบน้ำโรมันโบราณ โรงละคร และสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนที่งดงาม ทำให้การเดินทางสิ้นสุดลงอย่างยิ่งใหญ่

    เคล็ดลับการเดินทางบน Cotswolds Way

    1. เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม
      เดือนเมษายนถึงตุลาคมถือเป็นเวลาที่ดีที่สุด อากาศไม่หนาวเกินไปและทิวทัศน์สวยงาม โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง
    2. จัดการสัมภาระ
      หากไม่ต้องการแบกของหนัก สามารถใช้บริการขนกระเป๋าระหว่างที่พัก ทำให้การเดินสบายขึ้นมาก
    3. รองเท้าและอุปกรณ์
      ควรใช้รองเท้าเดินป่าที่มีคุณภาพและกันน้ำได้ เนื่องจากบางช่วงเส้นทางอาจมีโคลน โดยเฉพาะหลังฝนตก
    4. พักผ่อนระหว่างทาง
      อย่าลืมเผื่อเวลาแวะชมหมู่บ้าน พูดคุยกับคนท้องถิ่น และเพลิดเพลินกับร้านน้ำชาเล็กๆ การเร่งรีบอาจทำให้พลาดเสน่ห์ที่แท้จริงของเส้นทางนี้
    5. การเตรียมตัวทางกายภาพ
      แม้เส้นทางนี้ไม่ยากเท่าการปีนเขาสูงชัน แต่การเดินต่อเนื่องหลายวันก็ต้องอาศัยความฟิตระดับหนึ่ง การฝึกซ้อมล่วงหน้าจะช่วยให้การเดินสนุกขึ้น

    ความประทับใจที่นักเดินทางได้รับ

    หลายคนที่ได้สัมผัส Cotswolds Way ต่างบอกตรงกันว่ามันเป็นการเดินทางที่ทำให้เข้าใจอังกฤษในแง่มุมที่ต่างจากการไปเยือนลอนดอนหรือเมืองใหญ่ การได้เดินผ่านเนินเขาที่เงียบสงบ ฟังเสียงนกร้อง มองเห็นบ้านหินสีทองท่ามกลางทุ่งหญ้า และพูดคุยกับชาวบ้านที่เป็นมิตร ทำให้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกอีกใบที่เวลาหมุนช้าลง

    ไม่เพียงแต่เป็นการพักผ่อนทางกาย แต่ยังเป็นการพักใจ ทำให้ผู้คนได้ใช้เวลาทบทวนชีวิตและซึมซับความเรียบง่ายที่งดงาม

    เส้นทางรายวันของ Cotswolds Way

    แม้ว่าแต่ละคนอาจจะจัดตารางเดินไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความฟิตและเวลาที่มี แต่โดยทั่วไปนักเดินทางมักแบ่งเส้นทางออกเป็น 7–10 วัน ต่อเนื่อง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ Chipping Campden ไปจนถึงจุดสิ้นสุดที่ Bath ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างแผนเดิน 9 วันซึ่งถือว่าเหมาะสมและได้รับความนิยมมากที่สุด

    วันที่ 1: Chipping Campden – Stanton (14 กม.)

    การเดินเริ่มต้นจากเมือง Chipping Campden เมืองประวัติศาสตร์ที่เคยรุ่งเรืองด้านการค้าขนสัตว์ ถนนสายหลักที่เรียงรายด้วยบ้านหินปูนสีทองพาผู้เดินเข้าสู่บรรยากาศชนบทอังกฤษอย่างแท้จริง ปลายทางอยู่ที่หมู่บ้าน Stanton หมู่บ้านเล็กที่เงียบสงบและงดงาม

    วันที่ 2: Stanton – Broadway – Winchcombe (21 กม.)

    เส้นทางวันนี้ผ่าน Broadway Tower จุดชมวิวสูงที่สามารถมองเห็นได้กว้างไกล หมู่บ้าน Broadway เองก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เต็มไปด้วยร้านกาแฟน่ารัก ก่อนเดินต่อไปยัง Winchcombe เมืองที่มี Sudeley Castle ปราสาทประวัติศาสตร์ชื่อดัง

    วันที่ 3: Winchcombe – Cleeve Hill (12 กม.)

    ช่วงนี้สั้นแต่มีเสน่ห์ เส้นทางขึ้นสู่ Cleeve Hill จุดที่สูงที่สุดของคอตส์โวลด์ เปิดโอกาสให้เห็นทัศนียภาพกว้างขวางเหนือหุบเขา Severn และบางวันสามารถเห็นไปถึงเทือกเขา Malvern

    วันที่ 4: Cleeve Hill – Birdlip (24 กม.)

    วันนี้เป็นหนึ่งในวันที่ยาวที่สุด นักเดินต้องผ่านทุ่งหญ้า ป่าไม้ และพื้นที่เกษตรกรรมแบบดั้งเดิม จุดหมายที่ Birdlip เป็นหมู่บ้านเล็กบนสันเขา

    วันที่ 5: Birdlip – Painswick (16 กม.)

    เส้นทางวันนี้งดงามด้วยการผ่านป่าและเนินเขาที่เงียบสงบ ปลายทางคือ Painswick เมืองที่ได้ฉายาว่า “ราชินีแห่งคอตส์โวลด์” มีโบสถ์ St. Mary อันโด่งดังซึ่งรายล้อมด้วยต้นยูนับร้อยต้น

    วันที่ 6: Painswick – Dursley (24 กม.)

    ช่วงนี้มีทิวทัศน์สลับระหว่างทุ่งหญ้าและป่าไม้ จุดชมวิวบน Crickley Hill และ Coaley Peak ทำให้เป็นวันที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง

    วันที่ 7: Dursley – Wotton-under-Edge (18 กม.)

    เส้นทางผ่านเนินเขาที่เงียบสงบและหมู่บ้านเล็กๆ ก่อนถึงเมือง Wotton-under-Edge ที่มีสถาปัตยกรรมโบราณและผับท้องถิ่นให้นักเดินพักผ่อน

    วันที่ 8: Wotton-under-Edge – Cold Ashton (22 กม.)

    วันนี้ผู้เดินจะเข้าสู่บรรยากาศที่แตกต่างมากขึ้น ทั้งเส้นทางป่า สนามหญ้า และหมู่บ้านโบราณ Cold Ashton ถือเป็นจุดพักสุดท้ายก่อนเข้าสู่เมือง Bath

    วันที่ 9: Cold Ashton – Bath (16 กม.)

    วันสุดท้ายของการเดินทางคือไฮไลท์ เส้นทางพาเข้าสู่เมือง Bath เมืองมรดกโลกของยูเนสโกที่เต็มไปด้วยโรงอาบน้ำโรมันและสถาปัตยกรรมจอร์เจียนอันงดงาม ถือเป็นการปิดฉากการเดิน Cotswolds Way อย่างสมบูรณ์แบบ


    ทำไมควรเลือก Cotswolds Way

    • เหมาะกับผู้รักธรรมชาติ: ได้สัมผัสทั้งเนินเขา ทุ่งหญ้า และวิวมุมกว้างที่เปลี่ยนแปลงตลอดทาง
    • เหมาะกับผู้รักประวัติศาสตร์: เส้นทางเต็มไปด้วยร่องรอยตั้งแต่ยุคหินใหม่จนถึงสถาปัตยกรรมจอร์เจียน
    • เหมาะกับผู้แสวงหาความสงบ: การเดินผ่านหมู่บ้านเล็กและผับท้องถิ่นช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและผ่อนคลาย
    • ยืดหยุ่นได้: ผู้เดินสามารถเลือกเดินทั้งเส้นทางหรือเพียงบางช่วงตามเวลาที่มี

    สรุป

    เส้นทาง Cotswolds Way ไม่ได้เป็นเพียงการเดินเท้าที่ยาวกว่า 160 กิโลเมตร แต่คือการเดินทางที่พาผู้คนก้าวเข้าสู่โลกของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมชนบทอังกฤษที่แท้จริง การเดินแต่ละวันเต็มไปด้วยเรื่องราวที่แตกต่าง ตั้งแต่หมู่บ้านหินสีทอง ปราสาทโบราณ ไปจนถึงวิวที่มองไกลสุดสายตา

    สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่มากกว่าการท่องเที่ยวทั่วไป Cotswolds Way คือคำตอบที่มอบทั้งความท้าทาย ความงาม และความทรงจำที่คงอยู่ไปอีกนาน

    Cotswolds Way: เส้นทางเดินเท้าชม หมู่บ้าน ที่ สวยงามที่สุดในอังกฤษ อ่าว พังงาในตำนาน: ผลงานศิลปะของธรรมชาติที่น่าหลงใหล เมื่อไรควรกังวลเกี่ยวกับอาการ ท้องเสีย สัญญาณอันตรายของภาวะขาดน้ำ โรคหืดหลอดลมในผู้สูงอายุ: ความท้าทายในการวินิจฉัยและการจัดการ
    Daniel Walker

    Related Posts

    คู่มือการอดอาหารอย่าง ปลอดภัย เพื่อสุขภาพระยะยาว

    September 2, 2025

    อัลเกววา บลู เลค: อัญมณีลับสำหรับนักดูดาวใน โปรตุเกส

    September 1, 2025

    บริเวณ ร่างกาย ที่มีความเสี่ยงสูงและอันตรายหากถูกเศษแหลมทิ่มแทง

    August 29, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.