กลิ่น ใต้วงแขนเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลให้กับหลายคน เนื่องจากส่งผลต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพ แม้ว่าจะมียาระงับกลิ่นกายมากมายในท้องตลาด แต่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ให้ผลเพียงชั่วคราวและไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ บทความนี้จะแนะนำ ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ที่ช่วยกำจัดกลิ่นใต้วงแขนได้อย่างถาวร พร้อมหลักการทำงาน วิธีใช้ และข้อควรระวัง
สาเหตุของกลิ่นใต้วงแขน

กลิ่นใต้วงแขนเกิดจากปัจจัยหลัก 3 ประการ:
- แบคทีเรีย – แบคทีเรียบนผิวหนังย่อยสลายเหงื่อและสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ต่อมเหงื่อ – ต่อมเอปครายน์ (Apocrine glands) ผลิตเหงื่อที่มีโปรตีนและไขมัน ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรีย
- สุขอนามัย – การทำความสะอาดไม่เพียงพอหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคือง
การแก้ปัญหาอย่างถาวรต้องจัดการทั้ง 3 ปัจจัยนี้พร้อมกัน
ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในการกำจัด กลิ่น ใต้วงแขนอย่างถาวร
1. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Aluminum Chloride (อลูมิเนียม คลอไรด์)
หลักการทำงาน:
- อลูมิเนียมคลอไรด์ช่วยปิดกั้นต่อมเหงื่อชั่วคราว ลดการผลิตเหงื่อ
- ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
ผลิตภัณฑ์แนะนำ:
- Driclor – เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมาก
- Perspirex – ใช้คืนละครั้ง ช่วยลดเหงื่อได้นาน 3-5 วัน
วิธีใช้:
- ทาบริเวณใต้วงแขนก่อนนอน (หลังทำความสะอาดและเช็ดให้แห้ง)
- หลีกเลี่ยงการทาหลังโกนขนเพราะอาจระคายเคือง
- ล้างออกในตอนเช้า
ผลลัพธ์:
- เหงื่อลดลง 80-90% ภายใน 1 สัปดาห์
- กลิ่นหายไปเนื่องจากแบคทีเรียไม่มีเหงื่อให้ย่อยสลาย
ข้อควรระวัง:
- อาจทำให้ผิวแห้งหรือคันในบางคน
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง
2. สบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Antibacterial Soap)
หลักการทำงาน:
- ลดจำนวนแบคทีเรียบนผิวหนัง
- ป้องกันการสะสมของเชื้อก่อกลิ่น
ผลิตภัณฑ์แนะนำ:
- Safeguard Antibacterial Soap – มีส่วนผสมของ Triclosan
- Hibiclens Antiseptic Skin Cleanser – ใช้ในทางการแพทย์
วิธีใช้:
- ฟอกสบู่บริเวณใต้วงแขนวันละ 2 ครั้ง
- ทิ้งไว้ 30 วินาทีก่อนล้างออก
ผลลัพธ์:
- ลดกลิ่นได้ 50-70%
- เหมาะสำหรับใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น
ข้อควรระวัง:
- อาจทำให้ผิวแห้ง ควรทามอยส์เจอไรเซอร์หลังใช้
3. ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ (Natural Deodorants)
หลักการทำงาน:
- ใช้สารธรรมชาติเช่นเบกกิ้งโซดาและน้ำมันหอมระเหยดูดซับกลิ่น
- ไม่ปิดกั้นเหงื่อแต่ลดการเจริญของแบคทีเรีย
ผลิตภัณฑ์แนะนำ:
- Native Deodorant – มีส่วนผสมของ Coconut Oil และ Shea Butter
- Schmidt’s Natural Deodorant – ใช้เบกกิ้งโซดาและ Arrowroot Powder
วิธีใช้:
- ทาทุกวันหลังอาบน้ำ
ผลลัพธ์:
- กลิ่นลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์
- เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้อลูมิเนียม
ข้อควรระวัง:
- บางคนอาจแพ้เบกกิ้งโซดา
4. ผลิตภัณฑ์ที่มีกรด Mandelic Acid
หลักการทำงาน:
- กรดผลไม้ชนิดนี้ปรับ pH ผิวให้เป็นกรดอ่อนๆ
- แบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตได้
ผลิตภัณฑ์แนะนำ:
- The Ordinary Mandelic Acid 10%
- Medik8 Pore Cleanse Intense
วิธีใช้:
- ทาวันละครั้งก่อนนอน
ผลลัพธ์:
- กลิ่นลดลงภายใน 2 สัปดาห์
- ผิวเรียบเนียนขึ้น
5. การรักษาด้วย Botox (โบท็อกซ์)
หลักการทำงาน:
- ยับยั้งสัญญาณประสาทที่กระตุ้นต่อมเหงื่อ
- ผลลัพธ์อยู่ได้ 6-12 เดือน
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis)
ผลลัพธ์:
- ลดเหงื่อได้ 90-100%
ข้อควรระวัง:
- ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- มีค่าใช้จ่ายสูง
วิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
โปรแกรม 7 วันในการกำจัดกลิ่นใต้วงแขน
วัน | เช้า | เย็น |
---|---|---|
1-3 | ใช้สบู่ฆ่าเชื้อ | ทา Aluminum Chloride |
4-7 | ใช้ Natural Deodorant | ทา Mandelic Acid |
วิธีป้องกันไม่ให้กลิ่นกลับมา
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
- ดื่มน้ำมากๆ
6. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll)
หลักการทำงาน:
- คลอโรฟิลล์ช่วยลดกลิ่นร่างกายจากภายใน
- ทำงานโดยการยับยั้งแบคทีเรียและลดสารพิษในร่างกาย
ผลิตภัณฑ์แนะนำ:
- Nature’s Way Chlorofresh Liquid Chlorophyll
- World Organic Liquid Chlorophyll
วิธีใช้:
- รับประทานวันละ 1-2 ช้อนชา ผสมกับน้ำ
- หรือรับประทานในรูปแบบแคปซูล
ผลลัพธ์:
- ลดกลิ่นกายภายใน 1-2 สัปดาห์
- ช่วยล้างพิษและบำรุงเลือด
ข้อควรระวัง:
- อาจทำให้อุจจาระมีสีเขียวชั่วคราว
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้หากกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
7. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)
หลักการทำงาน:
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
- ลดการอุดตันของรูขุมขน
- มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย
ผลิตภัณฑ์แนะนำ:
- Paula’s Choice Skin Perfecting 2% BHA Liquid Exfoliant
- The Inkey List Beta Hydroxy Acid (BHA)
วิธีใช้:
- ทาบริเวณใต้วงแขนหลังอาบน้ำ
- ใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
ผลลัพธ์:
- ผิวใต้วงแขนเรียบเนียนขึ้น
- ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี
8. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสังกะสี (Zinc)
หลักการทำงาน:
- สังกะสีช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
- ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
ผลิตภัณฑ์แนะนำ:
- DeoDry Deodorant Cream (มี Zinc Oxide 15%)
- The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%
วิธีใช้:
- ทาวันละครั้งหลังอาบน้ำ
- สำหรับผลิตภัณฑ์รับประทาน ควรรับประทานตามคำแนะนำบนฉลาก
ผลลัพธ์:
- ลดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
9. การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser Treatment)
หลักการทำงาน:
- เลเซอร์ทำลายต่อมเหงื่ออย่างถาวร
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมาก
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร
กระบวนการรักษา:
- ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อครั้ง
- ต้องทำ 2-3 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน
ผลลัพธ์:
- ลดเหงื่อได้ 80-90%
- ผลลัพธ์ถาวร 5-7 ปี
ข้อควรระวัง:
- มีค่าใช้จ่ายสูง
- อาจมีอาการบวมแดงชั่วคราว
10. ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย
ส่วนผสมหลัก:
- ว่านหางจระเข้
- ขมิ้นชัน
- ใบฝรั่ง
วิธีทำเองที่บ้าน:
- ผสมว่านหางจระเข้ 2 ช้อนโต๊ะกับผงขมิ้น 1 ช้อนชา
- เติมน้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- ทาบริเวณใต้วงแขนทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก
ผลลัพธ์:
- ลดกลิ่นได้ดี
- ปลอดภัยต่อผิว
ตารางเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ | ราคา (บาท) | ความถี่การใช้ | ผลลัพธ์ที่ได้ |
---|---|---|---|
Aluminum Chloride | 500-1,000 | 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ | ลดเหงื่อ 80-90% |
สบู่ฆ่าเชื้อ | 100-200 | วันละ 2 ครั้ง | ลดแบคทีเรีย 50-70% |
Natural Deodorant | 300-600 | ทุกวัน | ลดกลิ่น 60-80% |
Botox | 10,000-20,000 | ทุก 6-12 เดือน | ลดเหงื่อ 90-100% |
เลเซอร์ | 30,000-50,000 | 2-3 ครั้ง | ลดเหงื่อถาวร |
คำถามที่พบบ่อย
Q: ผลิตภัณฑ์ใดเหมาะกับผิวแพ้ง่ายที่สุด?
A: ผลิตภัณฑ์ที่มีสังกะสีหรือสมุนไพรไทยเหมาะที่สุด เพราะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
Q: ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล?
A: โดยทั่วไปจะเห็นผลภายใน 1-2 สัปดาห์ ยกเว้นการรักษาแบบถาวรที่อาจต้องใช้เวลา 1-2 เดือน
Q: สามารถใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิดร่วมกันได้หรือไม่?
A: สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ควรเว้นระยะห่างระหว่างการใช้งาน และสังเกตอาการแพ้ กลิ่น
บทสรุป
การเลือกผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นใต้วงแขนควรพิจารณาจากสาเหตุและสภาพผิวของแต่ละบุคคล สำหรับผลลัพธ์ระยะยาวแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Aluminum Chloride ร่วมกับการรักษาด้วยเลเซอร์ ส่วนผู้ที่ต้องการทางเลือกธรรมชาติสามารถใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือคลอโรฟิลล์ได้ อย่าลืมว่าการดูแลสุขอนามัยพื้นฐานและการเลือกรักษาที่เหมาะสมคือกุญแจสำคัญในการกำจัดกลิ่นใต้วงแขนอย่างถาวร