Close Menu
    Facebook X (Twitter) Instagram
    kitchen-thailand
    • Home
    • ข่าวสารล่าสุด
    • ความบันเทิง
    kitchen-thailand
    ข่าวสารล่าสุด

    หลีกเลี่ยง การติดเชื้อ ในฤดูกาล! สอนลูกของคุณให้มีนิสัยสุขภาพที่ดี

    Daniel WalkerBy Daniel WalkerJune 19, 2025No Comments2 Mins Read

    ในช่วงฤดูฝนหรือช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง มักมีการระบาดของโรคต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อ ไข้หวัด ไอ น้ำมูกไหล และท้องเสีย เด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กวัยอนุบาล มีแนวโน้มจะป่วยง่ายกว่า เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขายังพัฒนาไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองสามารถช่วยป้องกันลูกจากโรคต่าง ๆ ได้ โดยการปลูกฝังนิสัยสุขภาพที่ดีในชีวิตประจำวัน นี่คือนิสัยที่ควรสอนให้เด็กเรียนรู้เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

    1. ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่

    มือเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค เด็กมักจับของสกปรก เล่นนอกบ้าน หรือหยิบอาหารโดยไม่ล้างมือก่อน ควรสอนให้เด็ก ๆ ล้างมือด้วยสบู่และน้ำไหลนานอย่างน้อย 20 วินาที โดยเฉพาะ:

    • ก่อนและหลังรับประทานอาหาร
    • หลังจากเล่นนอกบ้าน
    • หลังเข้าห้องน้ำ
    • หลังจากไอหรือจาม
    • หลังจับสัตว์

    ผู้ปกครองสามารถทำให้การล้างมือสนุกขึ้นได้ ด้วยการใช้สบู่กลิ่นผลไม้ หรือร้องเพลงสั้น ๆ ระหว่างล้างมือ

    2. ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม

    การปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจามช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ควรสอนเด็กให้ใช้กระดาษทิชชู หรือใช้ข้อพับแขนด้านใน (ไม่ใช่ฝ่ามือ) ปิดปากและจมูก จากนั้นทิ้งกระดาษลงถังขยะและล้างมือ

    3. รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

    อาหารที่มีประโยชน์ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ควรให้เด็กกินอาหารที่มี:

    • ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม สตรอว์เบอร์รี บรอกโคลี ผักโขม
    • โปรตีน เช่น ไข่ ปลา เนื้อ ถั่ว
    • สังกะสี เช่น เนื้อวัว ธัญพืช นม
    • โปรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต คีเฟอร์ เพื่อสุขภาพลำไส้

    หลีกเลี่ยงอาหารจานด่วน น้ำตาล และน้ำอัดลมมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง

    4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

    การดื่มน้ำช่วยให้เยื่อบุในจมูกและลำคอชุ่มชื้น ซึ่งเป็นแนวป้องกันแรกจากไวรัส ควรให้เด็กดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว หรือมากกว่านั้นหากมีกิจกรรมกลางแจ้ง

    5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การติดเชื้อ

    การนอนหลับอย่างเพียงพอมีบทบาทสำคัญต่อการเสริมภูมิคุ้มกัน เด็กแต่ละช่วงวัยควรนอนดังนี้:

    • อายุ 3-5 ปี ควรนอน 10-13 ชั่วโมงต่อวัน
    • อายุ 6-12 ปี ควรนอน 9-12 ชั่วโมง
    • วัยรุ่นควรนอน 8-10 ชั่วโมง

    การนอนไม่เพียงพออาจทำให้เด็กป่วยได้ง่าย ควรมีตารางเวลานอนที่สม่ำเสมอและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการนอนหลับ

    6. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    การออกกำลังกายช่วยให้เลือดหมุนเวียนดีและกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมให้เด็กเล่นกลางแจ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเดินเล่นตอนเช้าเพื่อรับวิตามินดีจากแสงแดด

    7. รักษาความสะอาดของสภาพแวดล้อม

    เชื้อโรคสามารถอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆ เช่น ของเล่น โต๊ะ หรือมือจับประตู ควรมีนิสัยในการ:

    • ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ
    • เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
    • ล้างของเล่นของเด็กเป็นระยะ
    • หลีกเลี่ยงการใช้ช้อนส้อมร่วมกับผู้ที่ป่วย

    8. สวมหน้ากากเมื่อป่วยหรืออยู่ในที่แออัด

    หากเด็กมีอาการไอหรือเป็นหวัด ควรสอนให้ใส่หน้ากากเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อสู่ผู้อื่น นอกจากนี้ การสวมหน้ากากในที่ที่มีผู้คนหนาแน่นก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

    9. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ

    ให้แน่ใจว่าเด็กได้รับวัคซีนตามที่แพทย์แนะนำ รวมถึงวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หากจำเป็น และพาไปตรวจสุขภาพเป็นระยะเพื่อติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการ

    10. เป็นแบบอย่างที่ดี

    เด็กเรียนรู้จากพฤติกรรมของพ่อแม่ หากพ่อแม่ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ลูกก็จะเลียนแบบพฤติกรรมนั้นด้วย ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการรักษาความสะอาด กินอาหารที่มีประโยชน์ และมีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพทุกวัน

    วิธีส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

    1. เป็นตัวอย่างที่ดี

    เด็กเรียนรู้พฤติกรรมส่วนใหญ่จากผู้ใหญ่โดยเฉพาะพ่อแม่ หากผู้ใหญ่ล้างมือก่อนอาหาร แปรงฟันตรงเวลา หรือจามอย่างมิดชิด เด็กก็จะเลียนแบบโดยธรรมชาติ

    2. ใช้คำพูดเชิงบวก

    แทนที่จะพูดว่า “อย่าทำแบบนั้น!” ให้ใช้ประโยคเช่น
    “ถ้าหนูล้างมือก่อนกินข้าว เชื้อโรคจะไม่เข้าไปในท้องนะ”
    คำอธิบายง่าย ๆ ที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงจะช่วยให้เด็กเข้าใจและจดจำได้ดีกว่า

    3. มีรางวัลเล็ก ๆ สำหรับความมีวินัย

    เช่น สติ๊กเกอร์, กำลังใจ, หรือคะแนนสะสมในปฏิทิน
    เด็กจะรู้สึกสนุกและมีกำลังใจในการทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง

    4. ใช้หนังสือนิทานหรือคลิปวิดีโอสั้น

    การ์ตูนสอนล้างมือหรือดูแลตัวเองในรูปแบบสนุก ๆ จะช่วยกระตุ้นความสนใจได้ดีกว่าการพูดบอกเพียงอย่างเดียว


    เช็กลิสต์นิสัยสุขภาพสำหรับเด็กในช่วงฤดูโรคระบาด

    พฤติกรรมลูกคุณทำได้สม่ำเสมอหรือไม่?
    ล้างมือทุกครั้งก่อนกินข้าวและหลังเข้าห้องน้ำ☐ ใช่ ☐ ไม่แน่ใจ ☐ ไม่
    ใช้ข้อพับแขนปิดเวลาไอ/จาม☐ ใช่ ☐ ไม่แน่ใจ ☐ ไม่
    รู้จักปฏิเสธการกินของร่วมกับเพื่อน☐ ใช่ ☐ ไม่แน่ใจ ☐ ไม่
    ดื่มน้ำสะอาดและนอนหลับให้พอเพียง☐ ใช่ ☐ ไม่แน่ใจ ☐ ไม่
    ชอบกินผักผลไม้และไม่ติดหวานจัด☐ ใช่ ☐ ไม่แน่ใจ ☐ ไม่

    หากคำตอบ “ไม่แน่ใจ” หรือ “ไม่” มากกว่า 2 ข้อ แนะนำให้เริ่มปรับพฤติกรรมทีละเรื่องอย่างใจเย็น


    ข้อแนะนำสำหรับคุณครูและศูนย์เด็กเล็ก

    • จัดกิจกรรม “วันล้างมือโลก” หรือ “สัปดาห์สุขภาพดี” ที่สอดแทรกนิสัยสุขอนามัยอย่างสร้างสรรค์
    • ติดโปสเตอร์การล้างมืออย่างถูกวิธีไว้ในห้องน้ำเด็ก
    • มีมุมสุขภาพประจำห้องเรียน เช่น กล่องหน้ากาก เจลล้างมือ หรือเทอร์โมมิเตอร์
    • แจ้งผู้ปกครองทันทีหากพบเด็กมีไข้ ไอ หรือน้ำมูก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในกลุ่ม

    วิธีประเมินผล: ลูกของคุณมีพฤติกรรมสุขภาพดีแค่ไหน?

    การสังเกตพฤติกรรมของลูกในชีวิตประจำวันคือเครื่องมือสำคัญในการประเมินความสำเร็จของการปลูกฝังนิสัยสุขภาพที่ดี พ่อแม่สามารถใช้แนวทางดังนี้:

    สังเกตพฤติกรรมในสถานการณ์จริง

    • เมื่อลูกเล่นของเล่นแล้วล้างมือหรือไม่
    • เวลาจามหรือต้องการสั่งน้ำมูก ลูกใช้ทิชชูและทิ้งลงถังหรือไม่
    • หากเห็นเพื่อนใช้ของร่วมกัน ลูกรู้จักปฏิเสธอย่างสุภาพหรือไม่

    พูดคุยหลังเหตุการณ์

    • ถามลูกว่า “ทำไมถึงล้างมือก่อนกินขนมวันนี้” หรือ
    • “ถ้ามีเพื่อนจามใกล้ ๆ หนู หนูควรทำอย่างไรดี?”

    ใช้แบบฝึกประเมินสุขภาพง่าย ๆ

    เช่น ติดสติกเกอร์ดาวในตารางพฤติกรรมเมื่อทำได้
    ครบ 5 ดาวใน 1 สัปดาห์ อาจให้รางวัลเล็ก ๆ หรือเวลาพิเศษกับพ่อแม่


    หากลูกไม่ทำตาม จะปรับอย่างไร?

    ไม่ใช่เด็กทุกคนจะสามารถรับนิสัยสุขภาพได้ทันที การเรียนรู้พฤติกรรมที่ดีเป็น “กระบวนการ” มากกว่าการ “ออกคำสั่ง” ดังนั้น:

    ❌ หลีกเลี่ยงการตำหนิรุนแรง

    • การดุเสียงดังอาจทำให้เด็กต่อต้านหรือรู้สึกอับอาย
    • แนะนำอย่างใจเย็น และให้โอกาสซ้อมใหม่ในโอกาสถัดไป

    แก้ไขด้วยวิธีที่เข้าใจง่าย

    • “คราวนี้หนูลืมล้างมือ แต่นี่คือโอกาสดีให้เราซ้อมใหม่นะ”
    • ลองเล่นบทบาทสมมุติ เช่น พ่อแม่เล่นเป็นเชื้อโรค แล้วให้ลูกป้องกันตัวเอง

    ทำให้สนุก อย่าให้รู้สึกเหมือนบังคับ

    • เช่น ล้างมือพร้อมร้องเพลง, เล่นเกม “จับผิดสุขภาพ” เพื่อให้เด็กรู้ว่าอะไรควรทำ

    ร่วมสร้าง “วัฒนธรรมสุขภาพดี” ในบ้าน

    • วางแผนจัดวัน “Happy Health Day” ทุกเดือน เช่น ทำเจลล้างมือ DIY, สอนลูกเลือกหน้ากากอนามัยแบบปลอดภัย
    • พูดเรื่องสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เช่น เล่าเรื่อง “เชื้อโรคประหลาด” ก่อนนอน หรือชมข่าวสุขภาพร่วมกัน
    • แปะโปสเตอร์สุขอนามัยในห้องน้ำหรือหน้าห้องนอนของลูก
    หลีกเลี่ยงการติดเชื้อในฤดูกาล! สอนลูกของคุณให้มีนิสัยสุขภาพที่ดี
    Daniel Walker

    Related Posts

    หมอกน้ำแข็ง: หมอกผีเหนือ ทะเล เยือกแข็งแห่งอาร์กติก

    August 1, 2025

    ผลกระทบของภาวะขาดธาตุ เหล็ก ต่อสติปัญญาของเด็ก

    July 26, 2025

    ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในการกำจัด กลิ่น ใต้วงแขนอย่างถาวร

    July 25, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.